ปรับรีโมทแอร์ ให้เย็นฉ่ำ

แอร์ไม่เย็นปรับรีโมทผิดหรือเปล่า

แอร์ไม่เย็น ปรับรีโมทแอร์ ผิดหรือเปล่า

ปัญหาแอร์ไม่เย็น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการ ปรับรีโมทแอร์ ผิด! ปัญหาระดับชาติ ที่ทุกคนต้องเคยทำ ปรับรีโมทแอร์ผิดทำให้แอร์ไม่เย็น แอร์มีแต่ลมออกเพราะกดเปิดโหมด พัดลม แอร์มีโหมดหลายโหมดให้คุณเลือกใช้ ให้เหมาะกับการใช้งาน เช่นโหมดพัดลมเหมาะกับการทิ้งอากาศภายในตัวเครื่องออกมา สามารถลดกลิ่นอับได้ ควรเปิดหน้าต่างเอาไว้ด้วยเพื่อแอร์จะเอาอากาศใหม่เข้าไปในตัวเครื่อง ดังนั้นหากคุณต้องการความเย็น แนะนำเป็นโหมด Cool วันนี้เรามาทำความรู้จักรีโมทแอร์ของเราให้มากขึ้นดีกว่า

หมวดหมู่

[scroll_to title=”ปุ่มรีโมทแอร์ มีอะไรบ้าง” link=”#remoteair1″]

ปุ่มรีโมทแอร์ ปรับรีโมทแอร์ มีอะไรบ้าง

  1. ปุ่มเปิด-ปิด
  2. ปุ่มปรับโหมดแอร์
  3. ปุ่มปรับแรงลม
  4. ปุ่มตั้งเวลาเปิด-ปิด
  5. ปุ่มปรับสวิงแอร์
  6. ปุ่มเร่งความเย็นสูงสุด
  7. ปุ่มSleep
  8. ปุ่มCleanทำความสะอาด (มีบางรุ่น)
  9. ปุ่มประหยัดพลังงานEco (มีบางรุ่น)
  10. ปุ่มรีเซ็ตรีโมท
  11. ปุ่มสกินแคร์ (มีบางรุ่น)
  12. ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง (มีบางรุ่น)
  13. ปุ่มฟอกอากาศ (มีบางรุ่น)
  14. ปุ่มHeat (มีบางรุ่น)

[scroll_to title=”รีโมทแอร์ มีกี่ประเภท” link=”#remoteair2″]

รีโมทแอร์ มีกี่ประเภท

รีโมทแอร์ที่ใช้งานทั่วไป จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ รีโมทแบบไร้สาย และ รีโมทแบบมีสาย ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะการใช้งานและฟังก์ชั่นเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ จุดประสงค์ของผู้ใช้งานว่าต้องการให้รีโมทแอร์เคลื่อนย้ายได้หรือไม่ ส่วนมากอยู่ที่หน้างานที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศว่าเหมาะสมที่จะเคลื่อนย้ายรีโมทได้หรือไม่

  • รีโมทไร้สาย คือ รีโมทที่ไม่ติดกับตัวเครื่อง เคลื่อนย้ายไปมาได้ เหมาะสำหรับที่พักที่อยู่อาศัย ต้องใส่ถ่านรีโมท รีโมทถึงจะใช้งานได้ พบเห็นตามบ้านตัวไป
  • รีโมทมีสาย คือ รีโมทที่ติดกับตัวเครื่องไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยจะมีสายต่อจากเครื่องปรับอากาศ นำรีโมทต่อยืดติดกับผนังต่างๆ ตามตำแหน่งที่ระบุตำแหน่งไว้ ส่วนมากจะพบเห็นตามสำนักงาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เพื่อป้องกันที่จะทำรีโมทหาย

[scroll_to title=”โหมดของรีโหมดแอร์” link=”#remoteair3″]

โหมดของรีโหมดแอร์

โหมดแอร์ออโต้

Auto mode = โหมดอัตโนมัติ คือ โหมดทำความเย็นตามเครื่องปรับอากาศ การทำงานตอนแรกจะเร่งทำความเย็น ซึ่งอุณหภูมิที่เราจะได้ จะอยู่ประมาณ25องศา การทำงานนั้นจะสลับไปมาระหว่างโหมดCool และ Dry เพราะถ้าไม่ได้อุณหภูมิตามเซ็นเซอร์เครื่องปรับอากาศตั้งไว้ โหมดCoolก็จะทำงานออโต้ เมื่อความเย็นได้ที่แล้ว ก็จะปรับมาเป็นโหมดDryออโต้ เช่นเดียวกัน การทำงานก็จะสลับไปมาแบบนี้ตลอดการใช้งาน บางยี่ห้อก็มีชื่อเรียกว่า I Feel ซึ่งก็คือ โหมดAuto นั้นเอง

เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุ หรือ สำหรับท่านที่ไม่ชอบคิดมาก ต้องการแค่กดเปิด/ปิด เครื่องอย่างเดียว ไม่ชอบอุณหภูมิต่ำ(หนาว)เกินไป
ข้อสังเกต: อุณหภูมิที่ได้ เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน เพราะการสลับไปมาระหว่างโหมดCoolและDry สำหรับคนชอบความเย็นจัด จะไม่ชอบโหมดนี้

โหมดแอร์ โหมดคูล

Cool mode = โหมดเย็นเฉียบ คือ โหมดทำความเย็นแบบเลือกอุณหภูมิได้ ตามที่คุณต้องการ จะปรับร้อนปรับหนาว อยู่ที่คุณเลือกเลย แต่ก่อนหลายท่านชอบบอกว่าอยากได้แอร์เย็นๆ ให้เปิดโหมดCool แต่อย่าลืมนะคะ โหมดcoolต้องปรับอุณหภูมิลงมาด้วย เช่น คุณชอบอากาศประมาณ 24 องศา คุณก็ต้องตั้งเลขไว้ที่24เพราะถ้าเปิดโหมด cool อย่างเดียวแล้วไม่ปรับอุณหภูมิลงตาม แอร์ก็จะไม่เย็นตามที่ต้องการ ดั่งนั้น ชอบอุณภูมิที่เท่าไหร่ ปรับเลย

เหมาะสำหรับ: ช่วงอากาศร้อนจัด และ ท่านที่ชอบอุณหภูมิแบบตามใจตัวเอง ชอบอุณหภูมิเท่าไหร่ก็ปรับตามใจเลยค่ะ
ข้อสังเกต: ท่านจะต้องกดปรับรีโมทถึง2ครั้งเพราะจะต้องกดโหมดCoolแล้ว ยังต้องปรับที่อุณหภูมิอีก และอีกวันใดที่อากาศร้อน คุณต้องลดอุณหภูมิลงมาอีกสัก 1-2 องศาเพื่อได้อากาศตามที่ต้องการ ไม่ปรับออโต้ตามโหมดด้านบน

ปรับรีโหมดแอร์ โหมดดราย

Dry mode = โหมดลดความชื้น คือ โหมดนี้จะทำงานคล้ายๆ โหมดCool แต่ความเย็นจะได้ได้เท่าโหมดCool โหมดนี้จะลดความชื้นลง ควบคุมความชื้น

เหมาะสำหรับ: ช่วงที่มีอากาศชื่น เช่นฝนตก หรือ เหมาะสำหรับห้องที่ควบคุมความชื่นเช่นห้องเก็บของ
ข้อสังเกต: ประเทศไทยจะไม่ค่อยเหมาะกับโหมดนี้เพราะอุณหภูมิที่ได้จะไม่คงที่ และไม่เย็นตามที่ต้องการ

โหมดแฟน แอร์

Fan mode = โหมดพัดลม คือ พัดลมจริงๆค่ะ มีแต่ลมออกมาเลย ไม่มีความเย็นจากระบบน้ำยาสักนิด ใครที่ชอบเผลอกดโหมดนี้จะคิดว่าแอร์เสียตลอดเลยค่ะ เพราะแอร์จะมีแต่ลมออกมา ยิ่งอากาศร้อนๆแล้ว ลมที่ออกมาจากหน้าแอร์ ก็จะร้อนเช่นกันค่ะ

เหมาะสำหรับ: ท่านที่ทำความสะอาดห้องเปิดประตูหน้าต่างออก แนะนำเปิดแอร์โหมดFanไปด้วยเลย ลดกลิ่นอับที่แอร์ได้ เพราะแอร์จะดูดอากาศใหม่ๆเข้าที่ตัวเครื่อง และ ทิ้งอากาศเดิม ๆ ภายในห้อง
ข้อสังเกต: โหมดนี้ไม่มีความเย็นเลยค่ะ ไม่ควรเปิดใช้ถ้าหากท่านต้องการความเย็น

[scroll_to title=”ปรับรีโมทแอร์ยังไงให้เย็นฉ่ำ” link=”#remoteair4″]

ปรับรีโมทแอร์ ยังไงให้เย็นฉ่ำ

วันนี้ผมมีเคล็ดลับ ที่ไม่ลับ! มาฝากกันครับ ปรับรีโมทแอร์ให้เย็นฉ่ำไม่ใช่เรื่องยาก

  • ตั้ง โหมด ให้เป็น Cool อยู่เสมอ โหมด Cool คือโหมดที่ทำให้เครื่องปรับอากาศเย็น หรือ ไม่เย็นก็ได้ เอ้! ทำไมผมถึงบอกแบบนี้เพราะ การที่คุณจะเลือกให้โหมดคูลนั้น ต้อง คล้องจองกับอุณหภูมิ ที่ตั้งด้วย เช่น ถ้าอยากให้เย็น ต้องใช้โหมดคูล กับ ปรับอุณหภูมิไม่เกิน 25 องศา หากคุณขี้หนาวหน่อย ใช้โหมดคูล กับ ปรับอุณหภูมิมากว่า 25 องศา ได้เลยครับ
  • ตั้งอุณหภูมิให้ต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอก คุณเคยสังเกตไหมว่า ปกติเราปรับอุณหภูมิไว้เท่านี้แอร์ก็เย็น แต่ทำไมวันนี้ แอร์ไม่เย็นเลย เพราะตัวเซ็นเซอร์จับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศจับอุณหภูมิ ได้ตามทั้งตั้งไว้แล้ว แอร์เลยไม่ได้ปล่อยความเย็นออกมา เพราะอากาศภายนอกหรืออุณหภูมิภายในห้อง เท่ากับที่เราตั้งค่ารีโมทไว้
  • ปรับแรงลม อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การเลือกปรับแรงลม ยิ่งปรับอุณหภูมิต่ำแล้ว แรงลมแรงยิ่งแรง ยิ่งเย็นฉ่ำไปเลยครับ
  • สรุปปรับแบบนี้เย็นแน่นอน โหมด คูล + ต่ำกว่า 25 องศา + ลมแรงที่สุด ** ไม่เย็น ต้องล้างแอร์ หรือ เช็คความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศ

[scroll_to title=”ปรับรีโมทแอร์ช่วยประหยัดไฟ” link=”#remoteair5″]

เคล็ดลับปรับรีโมทแอร์ช่วยประหยัดไฟ

เปิดแอร์แบบประหยัดไฟ แค่ปรับรีโหมดแบบนี้ประหยัดจริง  ข้อมูลจากการไฟฟ้า คุณต้องเคยเห็นโฆษณาผ่านตาบ้างใช่ไหม ที่บอกให้ตั้งอุณหภูมิรีโมทไว้ที่ 25 องศา นั้นแหละครับ เคล็ดลับการประหยัดไฟ การที่เราตั้งอุณหภูมิ ที่ 25 องศาขึ้นไป ทำให้เครื่องปรับอากาศ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เมื่อคอมเพลสเซอร์ ไม่ทำงานหนัก ก็จะไม่กินไฟเยอะ เคล็ดลับเพิ่มเติม ก่อนที่คุณจะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ หากภายในห้องร้อนมากๆ แนะนำเปิดพัดลมเพื่อปรับให้ห้องมีอุณหภูมิ ที่ต่ำลง แบบนี้อากาศในห้องจะเย็นเร็ว และ เครื่องปรับอากาศก็จะไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย เลือกแอร์ประหยัดไฟ เลือกแอร์เบอร์5 มีดาว

[scroll_to title=”วิธีดูแลรักษารีโมทแอร์” link=”#remoteair6″]

รีโหมดแอร์

วิธีดูแลรักษารีโมทแอร์

รีโมทแอร์ ถือว่าเป็นอะไหล่แอร์ชิ้นนึงที่เสียบ่อยมากๆ เพราะการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ จำเป็นต้องสั่งผ่านรีโมทแอร์ หลายครั้งที่พบเจอรีโมทแอร์ใช้งานไม่ได้เพราะทำร่วง ทำตก จนเกิดความเสียหายกับรีโมทแอร์ ซึ่งถ้ารีโมทแอร์เสียแล้ว จะไม่สามารถซ่อมได้ หรือ เปลี่ยนใหม่ได้เพราะทางบริษัทผู้ผลิตจะรับประกันรีโมทแค่ 1 ปี เท่านั้น หากรีโมทเสียแล้ว แนะนำซื้อใหม่ดีกว่า ซ่อม เพราะรีโมทมีแบบเทียบรุ่น หรือ ตัวแทนสำหรับรุ่นนี้ได้ ราคาจะถูกกว่า

  1. เอาถ่านออก หากต้องรู้ว่าเราจะไม่ใช้เครื่องปรับอากาศมากกว่า 7 วัน เพราะถ่านละลายเป็นสาเหตุ 1 ที่ทำให้รีโมทพังได้
  2. ใช้งานรีโมทอย่างระมัดระวัง เลี่ยงการทำตก ทำหล่น เพื่อไม่ให้ภายในรีโมทเสียหาย ตกแตก หน้าจอมีปัญหาได้
  3. ดูแลทำความสะอาดรีโมทแอร์ โดยการเป่าฝุ่น เช็ดฝุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไปตามร่องรูรีโมทได้

[scroll_to title=”ไม่มีรีโมทแอร์ เปิดแอร์ได้ไหม” link=”#remoteair7″]

ไม่มีรีโมทแอร์ เปิดแอร์ได้ไหม

เปิดได้ค่ะ เครื่องปรับอากาศเกือบทุกรุ่น จะมีสวิทปิด-เปิดอยู่ที่ตัวเครื่อง ซึ่งถ้าหากจำเป็นจริงๆ สามารถเปิดที่ตัวเครื่องได้  แต่การเปิด-ปิดที่ตัวเครื่องนั้น เป็นการทำได้แค่เปิด-ปิดเครื่องเท่านั้น ซึ่งเครื่องปรับอากาศจะทำงานตามที่เรา ปรับรีโมทแอร์ หรือ อาจจะเปิดตามอุณหภูมิมาตราฐานการตั้งค่าจากโรงงานไว้ค่ะ จะอยู่โดยประมาณ 25 องศา หาก รีโมทแอร์เสีย เปิดแอร์ไม่ได้ อย่าลืม ว่าสามารถเปิดปิดที่ตัวเครื่องได้ครับ

[ux_video url=”https://youtu.be/59PSz-OOqp4″]

[ux_text text_align=”center”]

มีคำถาม สอบถามเราใช่ไหม ?

[/ux_text]
[col span__sm=”12″ align=”center”]

[button text=”โทร 099-310-5555″ icon=”icon-phone” link=”tel:0993105555″]

[button text=”ทักแชท LINE @ stcair” color=”success” link=”https://lin.ee/pB9a7D6″]

[button text=”ทักแชท Facebook” color=”white” icon=”icon-facebook” link=”https://www.facebook.com/SitthichodAir”]

[/col]