หมวดหมู่: วิธีดูแลรักษาแอร์

  • อากาศหนาวเปิดแอร์ไม่เย็น

    อากาศหนาวเปิดแอร์ไม่เย็น

    อากาศหนาวเปิดแอร์ ทำไมไม่เย็น

    สวัสดีครับ ผมน้องเย็นเย็นจากสิทธิโชติแอร์ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่า อากาศหนาวเปิดใช้งานแอร์ แล้วทำไมไม่เย็น ? หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา อาจเพราะการตั้งรีโมทแอร์ด้วย อากาศหนาวเปิดแอร์ไม่เย็น มีปัยจัยอะไรบ้างมาดูกันครับ

    สารบัญ

    • เพราะอะไร ? อากาศหนาวคอมเพลสเซอร์แอร์ถึงไม่ทำงาน
    • เครื่องปรับอากาศทำหน้าที่อะไร
    • อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเปิดใช้งานแอร์
    • เครื่องปรับอากาศเหมาะกับใคร
    • ข้อเสียของการเปิดแอร์ ช่วงหน้าหนาว

    เพราะอะไร ? อากาศหนาวคอมเพลสเซอร์แอร์ถึงไม่ทำงาน

    คุณรู้หรือไม่ ว่า อากาศภายนอกห้องที่เราจะเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากๆต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ในบางครั้งอุณหภูมิภายนอกต่ำเช่น 18-23 องศาเซลเซียส แต่พี่ๆเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 24 องศาเซลเซียส ซึ่งพี่ๆตั้งอุณหภูมิไว้สูงกว่าอากาศภายนอกห้อง คอมเพลสเซอร์เครื่องปรับอากาศจึงไม่ทำงาน เพราะเนื่องจาก อากาศภายนอกต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ ตัวเซ็นเซอร์ของเครื่องปรับอากาศก็จะไม่สั่งงานให้คอมเพลสเซอร์แอร์ทำงาน นี้คือเหตุผลที่ทำไม อากาศหนาวแล้วเครื่องปรับอากาศจึงไม่ทำงาน

    เครื่องปรับอากาศทำหน้าที่อะไร

    เครื่องปรับอากาศของประเทศไทยส่วนใหญ่นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อปรับอากาศที่ร้อนของภายในห้องที่ต้องการใช้งานให้มีอากาศเย็นขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วอุณหภูมิที่ปรับตั้งตามรีโมทจะอยู่ที่ 16- 31 องศาเซลเซียส ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าต้องการให้เครื่องปรับอากาศ ปรับอากาศให้เย็นขนาดไหน

    อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเปิดใช้งานแอร์

    การเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิอากาศ ที่พี่ๆต้องการ เช่น “อากาศวันนี้ร้อนจังเลย สูงถึง 30 องศาเซลเซียส แต่ฉันต้องการให้อุณหภูมิภายในห้องทำงานอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส พี่ๆก็ปรับตั้งอุณหภูมิที่รีโมทแอร์ให้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมกับการเปิดแอร์ก็คือ อุณหภูมิที่ต่ำกว่าเครื่องปรับอากาศจะสั่งทำงานได้ มารู้จักรีโมทแอร์ของเราให้ดีกว่าเดิมกันดีกว่าค่ะ 

    เครื่องปรับอากาศเหมาะกับใคร

    เครื่องปรับอากาศแบบทำความเย็น จะเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ที่อยู่ในพื้นที่สภาพอากาศร้อน ซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 18-43 องศาเซลเซียส ซึ่งในขณะพื้นที่บาง พื้นที่อยู่ในช่วงหน้าร้อน อากาศจะร้อนมากถึง 45 องศาเซลเซียส ทำให้ต้องมีเครื่องปรับอากาศมาช่วยแก้ปัญหาคลายร้อนให้กับพี่ๆ แต่ในขณะเดียวกันนั้น สภาพอากาศต่ำพื้นที่หนาวเย็น เครื่องปรับกาศแบบทำความเย็นจึงไม่เหมาะสมที่จะใช้งาน

    ข้อเสียของการเปิดแอร์ ช่วงหน้าหนาว

    หลายครั้งที่ พี่ๆอาจจะพบเจอปัญหา อากาศภายนอกหนาว เปิดแอร์แล้วรู้อึดอัดไม่สบายตัว อาจเป็นเพราะ อุณหภูมิที่เครื่องปรับอากาศตั้งสูงกว่าภายนอกห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศนั้นทำอุณหภูมิสูงกว่าภายนอกห้อง จึงทำให้เกิดการอึดอัดแล้วไม่สบายตัว และอาจจะมีกลิ่นเหม็นอับออกมาด้วยครับ และที่สำคัญเครื่องปรับอากาศเหมาะกับกาศปรับอากาศให้เย็นขึ้น ถ้าอากาศเย็นอยู่แล้ว อย่าเปิดใช้งานเลยนะครับ ใช้พัดลมแทนดีกว่าประหยัดค่าไฟด้วย

    เกร็ดความรู้เรื่องแอร์

    เครื่องปรับอากาศส่วนมากในประเทศไทย จะเป็นเครื่องปรับอากาศแบบชนิดทำได้แต่ความเย็น แต่เครื่องปรับอากาศในต่างประเทศจะมีแบบทั้งทำความร้อนและทำความเย็น หรือ บางประเทศที่ไม่ต้องการทำความเย็นแต่ต้องการให้อากาศอุ่นจะใช้เป็นตัว Heater แทน

     

    [ux_text text_align=”center”]

    มีคำถาม สอบถามเราใช่ไหม ?

    [/ux_text]
    [row width=”full-width” h_align=”center”]

    [col span__sm=”12″ align=”center”]

    [button text=”โทร 099-310-5555″ icon=”icon-phone” link=”tel:0993105555″]

    [button text=”ทักแชท LINE @ stcair” color=”success” link=”https://lin.ee/pB9a7D6″]

    [button text=”ทักแชท Facebook” color=”white” icon=”icon-facebook” link=”https://www.facebook.com/SitthichodAir”]

    [/col]

  • วิธีการดูแลแอร์บ้าน

    วิธีการดูแลแอร์บ้าน

    วิธีการดูแลแอร์บ้าน ให้ใช้งานได้ยาวนานและเย็นอยู่เสมอ

    วิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ รู้วิธีดูแลแอร์บ้านที่ถูกต้องหรือยัง ถ้ายังไม่แน่ใจก็ตามไปศึกษา และวิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ ไปพร้อมๆกันเลยนะครับ

    ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยของเราเครื่องปรับอากาศหรือแอร์คอนดิชันเนอร์ กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีสมาชิกในบ้านที่ขี้ร้อนด้วยล่ะก็ เครื่องปรับอากาศของคุณคงจะต้องทำงานหนักสู้ร้อนกันทั้งวันเลยล่ะ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือการ ดูแลแอร์บ้าน ของคุณอยู่เสมอ เพื่อให้อยู่ทนอยู่นานให้คุณได้ใช้ประโยชน์ในระยะยาว จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนใหม่อยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆ จาก กองวิศวกรรมการแพทย์ มาฝากกัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะช่วย ดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ เพื่อยืดอายุให้เครื่องปรับอากาศของคุณอยู่ไปได้อีกนาน ๆ มาดู วิธีการดูแลแอร์บ้าน และเคล็ดลับน่ารู้จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยนะครับ

    ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ

    เครื่องปรับอากาศขนาดเล็กที่ใช้กับบ้านพักอาศัยและสำนักงานทั่วไป สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการติดตั้งได้หลายประเภท เครื่องปรับอากาศทุกแบบ จะสามารถแบ่งส่วนประกอบของเครื่อง ออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่อยู่ภายในอาคาร (Indoor) เรียกว่า ชุดคอยล์เย็น หรือแฟนคอยล์ยูนิต และ ส่วนที่อยู่ภายนอกอาคาร (Outdoor) เรียกว่า ชุดคอยล์ร้อน หรือคอนเดนซิ่งยูนิต

    ซึ่งการทำงานของแต่ละส่วนก็จะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายชื่อ คือ ชุดคอยล์เย็นก็จะมีหน้าที่สร้างความเย็น ส่วนชุดคอยล์ร้อนก็มีหน้าที่สร้างความร้อนออกมา และเครื่องปรับอากาศแต่ละชุดยังมีส่วนประกอบย่อยต่าง ๆ ซึ่งแต่ละส่วนประกอบของเครื่องต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษาให้ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพการใช้งานของเครื่อง และนอกจากนี้แล้วยังต้องมีการดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

    วิธีการดูแลแอร์บ้าน บำรุงรักษาแอร์

    คอยล์เย็น หรือแฟนคอยล์ยูนิต เป็นตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องหรือภายในอาคาร มีส่วนประกอบย่อยที่จำเป็นต้องดูแลบำรุงรักษาและทำความสะอาดคือ

    1.แผงกรองฝุ่น

    ในเครื่องปรับอากาศทุกเครื่อง จำเป็นต้องมีแผงกรองฝุ่นหรือฟิลเตอร์ เพราะฟิลเตอร์จะทำหน้าที่เป็นด่านแรกที่จะกรองอากาศโดยจะดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปยังตัวแผงขดท่อคอยล์เย็น และเป่าเข้าสู่บรรยากาศภายในห้องได้อีก ฟิลเตอร์โดยทั่วไปมีใช้กันอยู่หลายชนิด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับขนาด และรูปแบบของเครื่อง เช่น เป็นแบบใยสังเคราะห์สีขาวหรือดำลักษณะคล้ายเส้นด้ายไนล่อนมีขอบเป็นโครงพลาสติก หรือเป็นแบบใยสังเคราะห์สีดำโครงขอบเป็นเหล็กเส้นลวด หรือเป็นแบบเส้นใยอลูมิเนียมถัก (ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศบางรุ่น มีฟิลเตอร์กรองกลิ่นและควันอยู่ด้วย)
    วิธีดูแลแอร์บ้านโดยล้างฟินเตอร์

    เราต้องดูแลทำความสะอาดฟิลเตอร์อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ฟิลเตอร์อุดตันไปด้วยฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพราะถ้าฟิลเตอร์อุดตันจะทำให้ลมไม่สามารถหมุนเวียนผ่านคอยล์เย็นได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่เย็น มีน้ำแข็งเกาะที่ตัวคอยล์เย็น และอาจมีน้ำหยดจากตัวเครื่องได้ เมื่อน้ำแข็งที่เกาะอยู่ละลาย

    โดยที่ฟิลเตอร์มีจุดประสงค์เพื่อการกรองดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ดังนั้นฟิลเตอร์จึงมีโอกาสอุดตันจากสิ่งเหล่านี้ได้มาก การล้างทำความสะอาดจึงควรทำให้บ่อยครั้ง โดยดูความเหมาะสมจากสภาพแวดล้อมและการใช้งาน เช่น ถ้าติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้อง หรือในอาคารที่มีลักษณะการทำงานที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น ห้องเตรียมผ้าสำหรับใช้ในการผ่าตัด ซึ่งห้องนี้จะมีฝุ่นใยผ้าเกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นการล้างฟิลเตอร์ควรต้องจะล้างทุกวัน หรืออย่างน้อยที่สุดทุกสัปดาห์ ส่วนการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในสถานที่ไม่ค่อยมีฝุ่นละอองมากนัก เช่น ห้องนอน ห้องพักผ่อน หรือห้องทำงานทั่วไป ก็ควรทำความสะอาดฟิลเตอร์ทุก ๆ อย่างน้อยหนึ่งเดือน ถึงสามเดือน หรืออาทิตย์ละ 1 ครั้ง

    วิธีการล้างฟิลเตอร์

    ทำได้โดยใช้น้ำแรง ๆ ฉีดที่ด้านหลังของฟิลเตอร์ (ด้านที่ไม่ได้รับฝุ่น) ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกหลุดออก หรือถ้าฟิลเตอร์เป็นแบบเส้นใยอลูมิเนียมถัก แบบเส้นใยไนล่อน ก็อาจใช้แปรงที่มีขนนิ่ม เช่น แปรงสีฟัน หรือแปรงทาสีช่วยปัดฝุ่นด้วยก็ได้

    [ux_video url=”https://www.youtube.com/watch?v=OF7o81T-2pY”]

    2. แผงขดท่อคอยล์เย็น

    แผงขดท่อคอยล์เย็น คือตัวสร้างความเย็น มีรูปร่างเป็นเส้นท่อขดไปมาตามความยาวของเครื่อง และจะมีแผ่นครีบอลูมิเนียมบาง ๆ หุ้มขดท่อเหล่านั้นอยู่ แผงขดท่อจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อถอดหน้ากากส่งลม หรือหน้ากากรับลมกลับ ของเครื่องออก ที่แผงขดท่อนี้จะมีฝุ่นผงขนาดเล็กที่สามารถผ่านการกรองของฟิลเตอร์เข้ามาได้ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ฝุ่นเหล่านี้จะจับตัวกันหนาขึ้น และอากาศจะไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศมีผลเช่นเดียวกันกับฟิลเตอร์ตัน จึงควรมีการล้างทำความสะอาดขดท่อและแผ่นอลูมิเนียม โดยในระยะเวลาในการล้างในรอบหนึ่งปี ควรมีการล้าง 1 ครั้ง

    ดูแลแผงขดท่อคอยล์เย็นวิธีล้างทำความสะอาดแผงขดท่อคอยล์เย็น

    ให้ใช้แปรงสีฟัน หรือแปรงทาสี ปัดเอาฝุ่น ที่เกาะยึดติดอยู่ให้ออกก่อนด้วยการลากแปรงลงตามแนวล่องของแผ่นครีบอลูมิเนียม แล้วจึงค่อยเอาน้ำฉีดหรือราด เพื่อให้ฝุ่นที่เหลือหลุดตามน้ำออกมา แต่เนื่องจากฝุ่นละอองที่จับอยู่เป็นเวลานาน จะมีความเหนียวมาก บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีช่วยในการขจัดคราบสกปรกออก น้ำยาเคมีที่ใช้ต้องเป็นแบบที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อคน และไม่ทำลายวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ เช่น แผ่นอลูมิเนียม ท่อทองแดง หรือพลาสติก ในการเอาน้ำฉีด น้ำยาเคมีที่ใช้ต้องเป็นแบบที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ หรือเวลาราด ต้องระมัดระวังอย่าให้น้ำกระเด็นเปียกอุปกรณ์ไฟฟ้าของเครื่อง และควรระวังไม่ให้น้ำล้นถาดรองรับน้ำของเครื่อง

    3. ใบพัดลมคอยล์เย็น

    ใบพัดลมคอยล์เย็น หรือ โบลเวอร์ เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเคลื่อนที่ของลม โดยได้กำลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ฝุ่นผงขนาดเล็กที่เล็ดลอดมาจากการดักจับของแผงกรองอากาศบางส่วน จะมาจับอยู่ที่ใบพัดลม ทำให้ร่องดักลมของใบพัดลมอุดตันไม่สามารถดักลมได้เต็มที่ การเกิดในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ปริมาณลมเย็นที่ออกไปจากคอยล์เย็นลดลง

    ดูแลโพรงกระะรอกแอร์

    จึงต้องเสียเวลาในการเดินเครื่องปรับอากาศนานขึ้น เพื่อที่จะให้ได้อุณหภูมิของห้องเท่าเดิม ซึ่งมีผลทำให้เสียค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากฝุ่นที่เกาะตามใบพัดลมจะทำให้พัดลมส่งลมเย็นออกมาได้น้อยแล้ว อาจจะทำให้เกิดเสียงดังที่ตัวชุดคอยล์เย็นขึ้นได้ เนื่องจากฝุ่นที่จับอยู่จะไปเพิ่มน้ำหนักให้กับใบพัด ทำให้ใบพัดเสียการสมดุลในตัวเอง และเมื่อมอเตอร์หมุนจะเกิดการสั่นสะเทือนจากแรงเหวี่ยงและเกิดเสียงดังขึ้นได้ การล้างทำความสะอาดใบพัด ควรล้างทำไปพร้อมกับการล้างทำความสะอาดแผงคอยล์เย็น

    4. ถาดรองรับน้ำทิ้งและท่อน้ำทิ้ง

    เป็น อุปกรณ์สำหรับรองรับน้ำที่เกิดจากการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำของไอน้ำในอากาศภายในห้อง น้ำที่เกิดขึ้นนี้จะไหลไปรวมกันที่ถาดรองรับน้ำและถูกระบายทิ้งโดยผ่านทางท่อน้ำทิ้ง ที่ถาดรองรับน้ำทิ้งนี้ถ้าไม่ได้รับการดูแลหรือทำความสะอาดเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดเมือกขาวใสคล้ายวุ้น น้ำที่ขังอยู่ในถาดรองรับน้ำทิ้งเป็นเวลานานนี้ เมื่อรวมกับฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ตามถาดรับ ก็อาจเป็นแหล่งอาหาร หรือเป็นแหล่งสะสม ของเชื้อโรค เชื้อรา และทำให้เชื้อโรคเชื้อราเหล่านี้เจริญเติบโตและแพร่กระจายสู่ผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้พักอาศัยภายในห้องและภายในอาคารได้ การทำความสะอาดถาดน้ำทิ้งโดยการใช้แปรงที่มีขนแข็งขัดถู หรือการถอดออกมาล้าง ส่วนท่อน้ำทิ้งทำได้โดยการใช้เครื่องเป่าลม เป่าลมเข้าไปตามท่อน้ำ หรือใช้น้ำที่มีแรงดันเล็กน้อยฉีดเข้าไปภายในท่อ (ต้องแน่ใจว่าในระบบท่อไม่มีรอยรั่ว)

    ดูแลถาดน้ำทิ้งแอร์บ้าน

    วิธีการล้างทำความสะอาดถาดรองรับน้ำและท่อน้ำทิ้ง

    ควรทำไปพร้อมกับการทำความสะอาดแผงขดท่อคอยล์เย็นและใบพัดลม และควรตรวจดูแนวท่อน้ำทิ้งด้วยว่ามีลักษณะโค้งงอ (ตกท้องช้าง) หรือไม่ ถ้ามีต้องทำการแก้ไข เพราะท่อน้ำทิ้งช่วงที่โค้งงอตกท้องช้าง จะเป็นแหล่งที่รวมของน้ำและสิ่งสกปรก ซึ่งจะทำให้ท่อน้ำทิ้งอุดตัน และจะทำให้มีน้ำหยดจากบริเวณที่ท่อตกท้องช้างได้ เนื่องจากไอน้ำในอากาศกระทบท่อที่น้ำเย็นขังอยู่

    5. ตัวโครงเครื่อง หน้ากากรับลม และหน้ากากจ่ายลม

    ทำความสะอาดโดยการปัดฝุ่น หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถู หรือถ้าสามารถถอดออกได้จะนำไปล้างน้ำก็ได้

    ดูแลแอร์บ้าน

    คอยล์ร้อน หรือคอนเด็นซิ่งยูนิต เป็นตัวที่ติดตั้งอยู่ภายนอกห้อง หรือภายนอกอาคาร ภายในชุดคอยล์ร้อนจะมีส่วนประกอบหลักอยู่สามส่วน คือ คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์พัดลมพร้อมใบพัดลม และแผงขดท่อกับครีบอลูมิเนียม ชุดคอยล์ร้อนจะมีหน้าที่นำเอาความร้อนจากภายในห้องมาระบายออกทิ้งไป ดังนั้นลมที่เป่าออกมาจากคอยล์ร้อนจึงเป็นลมร้อน

    6. คอยล์ร้อน

    การดูแลบำรุงรักษาคอยล์ร้อน จึงต้องทำให้เกิดการระบายความร้อนได้ดี โดยไม่มีวัตถุสิ่งของใด ๆ มาปิดบังทิศทางของการระบายของลม และดูแลไม่ให้มีฝุ่นหรือสิ่งอื่น ๆ มาปิดบัง โดยเฉพาะที่แผงขดท่อและแผ่นอลูมิเนียมของคอยล์ร้อน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวขวางกั้นไม่ให้ลมเข้าไปรับความร้อนจากชุดคอยล์ร้อนได้ ระยะห่างระหว่างชุดคอยล์ร้อนกับสิ่งกีดขวางที่ยอมรับได้ จะถูกกำหนดโดยข้อกำหนดเฉพาะในการติดตั้งของเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่น ซึ่งรวมถึงการเผื่อพื้นที่ว่างเพื่อการดูแลซ่อมบำรุงด้วย

    ดูแลคอยล์ร้อนแอร์บ้าน

    ถ้าคอยล์ร้อนสกปรก หรือมีสิ่งของมาปิดบังช่องทางการระบายลมทำให้ความร้อนไม่สามารถระบายออกมาได้แล้ว จะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่มีความเย็น หรือเย็นน้อย กินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติ และอาจทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหายได้ การทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามชุดคอยล์ร้อน สามารถใช้น้ำฉีดล้างได้ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำกระเด็นเข้าไปเปียกอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ระยะเวลาในการล้างทำความสะอาดชุดคอยล์ร้อนควรล้างทุก 6 เดือน หรือทุก 12 เดือน

    7. ล้างแอร์จากช่างที่ได้มาตรฐาน

    การล้างแอร์อย่างถูกวิธี เป็นการ ดูแลแอร์บ้าน ที่จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่อง ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนทำให้อากาศเกิดการหมุนเวียนภายในได้สะดวก ทำให้ห้องเย็นลง โดยไม่เพิ่มภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จึงเป็นวิธีทีช่วยลดการใช้พลังงานให้น้อยลง

    ดูแลแอร์บ้านเรียกช่างคุณภาพ

    สรุปประโยชน์การดูแลเครื่องปรับอากาศ

    การดูแลบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศจะทำให้เกิดประโยชน์ได้ 2 ทาง คือ

    1. จะทำให้เกิดการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่ากระแสไฟฟ้า ประหยัดค่าซ่อมบำรุง และยืดอายุการทำงานของเครื่อง
    2. จะทำให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย เนื่องจากการล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ จะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง เชื้อโรค เชื้อรา ที่เกาะติดอยู่กับส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง และที่ล่องลอยอยู่ในอากาศภายในห้องออกไปด้วย (ฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศจะถูกดักจับโดยแผงกรองฝุ่น ที่เรียกว่า ฟิลเตอร์) ซึ่งฝุ่นละออง เชื้อโรค เชื้อรา เหล่านี้ อาจเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลีเจียนแนร์ วัณโรค หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ

    ข้อแนะนำ

    เพื่อการใช้งาน การดูแลบำรุงรักษา และการตรวจซ่อมเครื่องปรับอากาศให้ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพและรูปแบบของเครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่อง ควรศึกษาทำความเข้าใจเอกสารคู่มือที่ให้มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ และปฏิบัติตามคำแนะนำให้ถูกต้อง

    คำเตือน

    ก่อนดำเนินการตรวจสอบ ดูแล บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่มีไฟฟ้าป้อนอยู่ ต้องปิดสวิตซ์ หรือเบรคเกอร์ ตัดวงจรของระบบไฟฟ้าออกก่อนทุกครั้ง

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก กองวิศวกรรมการแพทย์ และ สํานักเครื่องจักรกล

    เบอร์ 5 มี ดาว กี่ดาวประหยัดไฟนะ มาดูกันครับ